1. วงจรพัฒนาระบบ มีความสำคัญอย่างไร
ตอบ เป็นวิธีการที่นักวิเคราะห์ระบบใช้ในการพัฒนาระบบงาน เพื่อที่จะใช้เรียงลำดับเหตุการณ์หรือ กิจกรรม ที่จะต้องกระทำก่อนหรือกระทำในภายหลัง เพื่อที่จะช่วยให้การพัฒนาระบบงานทำได้ ง่ายขึ้น
2. วงจรพัฒนาระบบแบ่งออกเป็นกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง
ตอบ 7 ขั้นตอน ดังนี้
1. การกำหนดปัญหา (Problem Definition)
2. การศึกษาความเป็นไปได้(Feasibility Study)
3. การวิเคราะห์ระบบ (System Analysis)
4. การออกแบบระบบ (System Design)
5. การสร้างระบบ (System Construction)
6. การติดตั้งระบบ SDLC (System Implementation)
7. การประเมินและการบ ารุงรักษาระบบ ( Post – implementation reviews and maintenance)
3.ให้อธิบายขั้นตอนการตระหนักถึงปัญหาในระบบ
พร้อมยกตัวอย่าง 1 ปัญหา ตอบ
1.เป้าหมายในการทำโครงการทั้งหมด
ซึ่งจะเป็นทิศทางของการทำโครงการ
2.ขอบเขตของโครงการ
ในการกำหนดปัญหาหรือเข้าใจปัญหา จะต้องกำหนดกิจกรรมของระบบงานที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
กำหนดส่วนของระบบงานที่อยู่นอกเหนือขอบเขตการทำโครงการ รวมทั้งข้อจำกัด
เงื่อนไขต่างๆ ของการทำโครงการ
3.จำนวนเงินทุนที่ต้องใช้ในการจัดทำโครงการ
รวมทั้งวันเริ่มต้นและสิ้นสุดของการทำงานในแต่ละขั้นตอนอย่างคร่าวๆ
และจำนวนบุคลากรที่คาดว่าจะต้องใช้ในแต่ละขั้นตอนด้วย
ปัญหา 1.การตัดสินใจซื้อรถมาใช้ในบ้าน
4.ให้อธิบายขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้ของการแก้ปัญหาในข้อ
3 ตอบ
- ครอบครัวมี 4 คน
เวลาไปทำงาน และไปโรงเรียน ต้องใช้รถ 2 คัน หรือไป 2 เที่ยว ถ้ามีรถยนต์ จะสามารถเดินทางไปได้พร้อมกัน
- ครอบครัวมีรายได้จากทั้งพ่อและแม่
และไม่มีภาระหนี้อื่น มีความพร้อมในการชำระได้
5.
ให้อธิบายขั้นตอนการวิเคราะห์ปัญหา ในข้อ 3 โดยแยกออกมาทั้งระบบเดิม และระบบใหม่มี ข้อดี และข้อเสียอย่างไร ตอบ ระบบเดิม
ข้อดี
เดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซน์ ประหยัดค่าใช้จ่าย
ข้อเสีย
ไม่สามารถไปไหนพร้อมกันได้ทั้งครอบครัว ถ้าฝนตกจะลำบาก และไม่สบาย
ระบบใหม่
ข้อดี
เดินทางไปไหนด้วยกันได้ สะดวก รวดเร็ว และสามารถป้องกันแดด ฝนได้
ข้อเสีย
ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
6.
ให้บอกความหมายของการออกแบบการแก้ปัญหาในข้อ 3 ตอบ 1.เลือกดูรถที่สนใจ
2.สอบถามรุ่น ราคา
3.เปรียบเทียบรุ่น
และราคา และค่าใช้จ่าย
4.ตัดสินใจเลือก รถ รุ่น
สี วิธีการชำระเงิน
5.จองรถและทำสัญญา
6.วางแผนการใช้งาน
สถานที่จอดรถ
7.
ให้บอกวิธีการพัฒนาแนวทางแก้ปัญหาในข้อ 3 ตอบ การทำสัญญาจอง และรับรถ
จนได้รถมาใช้ในบ้าน
8.
ให้บอกความจำเป็นในการดูแลและรักษาระบบ ตอบ การดูแลรักษาความสะอาด
และดูแลให้รถมีสภาพดี การตรวจสภาพรถ , การล้าง และเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
9. ให้ยกตัวอย่าง
ระบบการปฏิบัติงานบ้าน หรือ กิจวัตรประจำวันมา 1 กิจกรรม พร้อมเขียนเป็นวงจรพัฒนาระบบทั้ง
7 ขั้น ( ตามตัวอย่าง 1 ) ตอบ ชื่อระบบ การเปลี่ยนชั้นวางรองเท้า
ขั้นที่ 1 ปัญหาของระบบ รองเท้าที่วางไว้หน้าบ้าน พบว่า
รองเท้ามีจำนวนหลายคู่ ซึ่งถ้าวางไว้หน้าบ้านมันจะดูไม่มีความระเบียบเรียบร้อย
และถ้ารองเท้าสกปรกแล้วนำมาวางหน้าบ้าน จะทำให้หน้าบ้านสกปรกไปด้วย
ขั้นที่ 2
ความเป็นไปได้ที่จะมีการแก้ปัญหา รองเท้าต้องการชั้นวางที่มีความเป็นระเบียบ
จะได้วางอย่างเรียบร้อยและดูสวยงาม และไม่สกปรก
ซึ่งดีกว่าการวางรองเท้าหน้าบ้านแบบเดิม
ราคา : สิ่งของที่นำมาไม่แพง
พอที่จะซื้อได้
อุปกรณ์ : ไม้กลึงกลม ,
แผ่นไม้อัดหนาประมาณ 10-15 มิลลิเมตร 1 แผ่น , ลูกล้อเลื่อน 4 ตัว , ตลับเมตร , เลื่อยวงเดือน , สกรู , เดือยไม้
, กระดาษทรายเบอร์หยาบและละเอียด
ขั้นที่ 3
การวิเคราะห์
ระบบเดิม
ข้อดี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
ข้อเสีย
รองเท้าดูวางไม่เป็นระเบียบ และทำให้พื้นสกปรก
ระบบใหม่
ข้อดี ทำให้รองเท้ามีความเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น
และลดความสกปรกที่พื้นหน้าบ้าน
ข้อเสีย
ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์
อุปกรณ์ : ไม้กลึงกลม ,
แผ่นไม้อัดหนาประมาณ 10-15 มิลลิเมตร 1
แผ่น , ลูกล้อเลื่อน 4 ตัว
, ตลับเมตร , เลื่อยวงเดือน , สกรู , เดือยไม้ , กระดาษทรายเบอร์หยาบและละเอียด
ขั้นที่ 4
การออกแบบ
1.เลือกซื้อไม้ที่จะนำมาทำชั้นวางรองเท้า
2.เตรียมอุปกรณ์ที่ต้องใช้ ตลับเมตร , เลื่อยวงเดือน , สกรู
, เดือยไม้ , กระดาษทรายเบอร์หยาบและละเอียด
, ลูกล้อเลื่อน 4 ตัว
ขั้นที่ 5
ขั้นตอนการลงมือปฏิบัติ
1.วัดขนาดรองเท้า
- วัดความลึกของชั้นให้ยาวเกินรองเท้า
- ใช้เลื่อยวงเดือยตัดไม้ออกเป็นแผ่นๆ
- ใช้กระดาษทรายขัดเสี้ยนไม้ที่เกิดจากรอยเลื่อย
2.วัดความสูงของชั้นที่เราต้องการ
- วัดความสูงของรองเท้าและตัดเสาไม้ให้สูงกว่ารองเท้าเล็กน้อย
3.เตรียมประกอบชิ้นส่วนทั้งหมด
4.หงายชั้นวางขึ้นเพื่อจะติดลูกล้อเลื่อนข้างล่างทั้ง
4 มุม
10. ให้ยกตัวอย่าง
ระบบการตัดสินใจซื้อสินค้า / เครื่องมือ เครื่องใช้ในการปฏิบัติงาน ของนักศึกษา
โดยเขียนเป็นวงจรการพัฒนาระบบ ในขั้นที่ 1 – 7 ( ตามตัวอย่าง 2) ตอบ ชื่อระบบ การตัดสินใจซื้อคอมพิวเตอร์
ขั้นที่ 1 ปัญหาของระบบ
ไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้ภายในบ้าน
ขั้นที่ 2 ศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้
ครอบครัวมี 5 คน
เวลาทำงานเร่งรีบต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการส่งงาน
แต่ต้องเสียเวลาไปใช้บริการที่ร้านเน็ต
ถ้ามีคอมพิวเตอร์จะสามารถส่งงานได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
ครอบครัวมีรายได้พอที่จะซื้อคอมพิวเตอร์มาไว้ที่บ้าน
ขั้นที่ 3 การวิเคราะห์ระบบ
ระบบเดิม
ข้อดี ไม่เปลืองค่าไฟ
ข้อเสีย ไม่สามารถส่งงานกะทันหันได้อย่างรวดเร็ว
ระบบใหม่
ข้อดี ส่งงานได้อย่างรวดเร็ว
ข้อเสีย ต้องนั่งรออีกคนทำให้เสร็จ
ขั้นที่ 4 การออกแบบ
1. เลือกดูรุ่นที่สนใจ
2. สอบถามรุ่น ราคา
3. เปรียบเทียบรุ่น ราคา และค่าใช้จ่าย
4. ตัดสินใจเลือกรุ่น วิธีการชำระเงิน
ขั้นที่ 5 การพัฒนาระบบ
รับคอมพิวเตอร์ และได้นำมาใช้งาน
ขั้นที่ 6 การซื้อ
และนำมาใช้งานในบ้าน
ขั้นที่ 7 การบำรุงรักษา
การดูแลรักษาความสะอาด การดูแลป้องกันไวรัส